สำหรับคาเฟ่

3 สิ่ง ลงทุนผิดชีวิตเปลี่ยน สำหรับคาเฟ่

ในทุกๆการลงทุนจะมีความเสี่ยงเสมอ ซึ่งการลงทุนจะมีหลายรูปแบบ จะมีทั้งการลงทุนด้วยแรงและเงิน หรือจะเป็นการลงทุนด้วยเงินเพียงอย่างเดียว

ส่วนของการลงทุนด้วยมีความผิดพลาดมากมายเกิดขึ้น ซึ่งจริงๆแล้วความผิดพลาดนั้นสามารถควบคุมได้ ก็คงแปลกใจล่ะสิ สำหรับการลงทุนของร้านกาแฟ แล้วการที่เราจะลงทุนผิดมันคืออะไร เดี๋ยวทางเรา จะอธิบายให้ฟัง

ซึ่งการลงทุนของร้านกาแฟจะผิดแปลกไปได้ยังไง ในเมื่อของที่สต๊อกมีไม่กี่สิ่งที่นำมาสต๊อกแล้วหมดอายุ แล้วจะขาดทุนได้ยังไง ถ้าหากว่าขายของไม่ได้เราก็แค่ลดพนักงานลง หรือลดบางสิ่งบางอย่างลง แค่นี้ก็ลดรายจ่ายได้แล้วจะขาดทุนได้ยังไง แต่มันจะมี 3 สิ่ง ลงทุนผิดชีวิตเปลี่ยนได้เลย

1. ร้าน

ร้าน

ถ้าไม่มีร้านกาแฟแล้วจะไปขายที่ไหนล่ะ ซึ่งร้านกาแฟก็จำเป็นต้องมี แต่จะไม่ใช่เป็นการซื้อขาด ทางเราจะแนะนำให้เป็นการเช่าซื้อจะดีกว่า ถึงแม้ว่าการที่เราจะซื้อขาดโดยการผ่อน จะเทียบเท่ากับสัญญาเช่าซื้อต่อเดือนก็ตาม แต่การเช่าซื้อจะมีข้อดีมากกว่า เช่น สีไม่สวย เราไม่ได้มีหน้าที่ต้องมารับผิดชอบ และจะถูกรีโนเวทจากเจ้าของพื้นที่เอง ซึ่งมันอยู่ที่การตกลงกันระหว่างผู้เช่าซื้อ และผู้ให้เช่า สำหรับทางเราคิดว่าการเช่าสามารถประหยัดกว่ามาก

และถ้าหากคิดกาลไกลว่าเราซื้อพื้นที่ตรงนั้นมันอาจจะมีโอกาสเพิ่มมูลค่าของตัวมันเอง แต่ความเป็นไปได้มันก็อาจจะมี แต่ความเติบโตของพื้นที่หลายๆพื้นที่ไม่สามารถโตได้ 30 – 50% ต่อปีได้ แต่ถ้าหากเราใช้โดยการเช่าซื้อ เราไม่ต้องคิดในส่วนตรงนั้นแค่เอากำไรบางส่วนไปจ่ายค่าเช่าพื้นที่ คิดในส่วนของค่าใช้จ่ายคงที่ ซึ่งการแบ่งค่าใช้จ่ายสามารถอ่านเพิ่มเติม คลิก

โดยการจะมีกำไร30-50% เราควรที่จะหาจากการที่เราขายของจะง่ายกว่าการหวังให้พื้นที่ตรงนั้นมีราคาสูงขึ้นกว่ามาก หากต้องการ passive income จริงๆ เราควรวางเงินในส่วนไปตรงที่อื่นเสียดีกว่า

ร้านในป่า

และการที่เราลงทุนกับพื้นที่ตรงนั้น แน่นอนว่าการคืนทุนของการทำธุรกิจของเราช้าอย่างมาก ซึ่งหลายๆคนก็คิดไปว่า ซื้อมาแล้วก็ทำธุรกิจไปเรื่อยเรื่อย จนกว่าจะถึงทางตันหรือว่าไปไม่รอดแล้วค่อยขายที่ดินก็ได้ซึ่งมันเป็นไปได้ยากมากเพราะว่าการขายที่ดินสมมุติเราซื้อมา 20ล้านแล้วเราทำเงินกับมันมาตลอด แล้วเราก็สามารถขายได้ 20ล้าน เราก็ก็จะคิดว่าค่าเช่าที่เราไม่ต้องเสียแถมยังได้เงินกับการที่เราขายของคิดซะว่าเป็นเงินฟรีสำหรับค่าพื้นที่

จริงๆแล้วไม่ใช่ทุกคนอย่าลืมคิดว่าในแต่ละแต่ละปีมันจะมีเงินเฟ้อมากขึ้น ซึ่งตามที่ ข่าวแจ้งว่าเงินซื้อประเทศไทยขึ้น 3% ต่อปีแต่จริงๆแล้วจะเป็น 3% ต่อเดือนแล้วก็เป็น7-10% ต่อปีซึ่งถ้าดูรวมรวมแล้ว 20ล้าน มันถูกเสื่อมค่าลงในทุกปี และการขายพื้นที่ ไม่สามารถขายง่ายเหมือนกันขายทองที่ไปร้านแล้วก็ขายแล้วก็ได้เงินมาพื้นที่หรือว่าที่ดินจะขายยากมากๆซึ่งก็ไม่รู้จะขายได้เมื่อไหร่

2. อุปกรณ์ราคาสูงเกินไป

เครื่อง

การใช้อุปกรณ์ราคาสูงไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องที่แย่แต่การใช้อุปกรณ์ราคาสูงเกินความจำเป็นมันเป็นสิ่งที่ทำให้มีค่าใช้จ่ายมากจนเกินไป อย่างเช่นเครื่องทำกาแฟราคา 300,000 บาท แต่เราสามารถขายได้วันละ 100 แก้วซึ่งถ้า ลดคุณภาพของเครื่องชงกาแฟลงไปอยู่ที่ประมาณ 150,000 บาทหรือ 200,000 บาทก็สามารถทำกาแฟได้วันละ 100 แก้วเหมือนกัน

ส่วนต่าง 100,000 บาทเราสามารถเอาไปลงทุนอย่างอื่นได้หรือนำไปเปลี่ยนเป็นค่าใช้จ่ายอย่างอื่นได้และถ้าหาก คิดกาลไกลกว่านั้น ถ้าหากวันนึงเราขายได้แค่วันละ 50 แก้วสำหรับเครื่องชงแค่ 100,000 บาทก็เพียงพอต่อการใช้งานเราสามารถนำเงินส่วนต่างไปใช้จ่ายอย่างอื่นได้อย่างมีคุณภาพมากกว่านี้แน่นอน

3. เฟอร์นิเจอร์ราคาสูง มีเยอะเกินไป

เฟอร์นิเจอร์

หลายคนคงเริ่มเข้าใจว่าทำไมเราควรลดต้นทุนซึ่งเฟอร์นิเจอร์ราคาสูงเราก็ควรมีแต่ไม่ใช่เป็นทุกโต๊ะหรือว่าทุกมุม เพราะแน่นอนว่าในคาเฟ่หรือในร้านกาแฟอาจจะเกิดอุบัติเหตุโดยการที่มี กาแฟหรืออาหารหกลงบนเฟอร์นิเจอร์นั้นนั้นซึ่งการดูแลรักษาค่อนข้างยากและอาจจะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงจึงทำให้เราเสียค่าใช้จ่ายกับตรงนั้นมากเกินไป

สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วคงคิดได้ว่าเราควรต้องคำนึงเรื่องต้นทุนเป็นอย่างมากและค่าใช้จ่ายที่เกินตัวสำหรับการทำธุรกิจนั้นทุกค่าใช้จ่ายเป็นเงินทุนเสมอ ซึ่งถ้าหากลดบางสิ่งบางอย่างได้และสามารถสร้าง รายได้ได้มากยิ่งขึ้นก็จะทำให้ผลต่างของกำไรเรามากยิ่งขึ้นและจะสามารถคืนทุนได้เร็ว

สุดท้ายนี้ทางเราอยากให้ทุกๆคนลงทุนอย่างมีสติมากขึ้นโดยคำนึงถึงค่าใช้จ่ายที่จะตามมาในภายหลังและผลตอบแทนกับสิ่งที่ได้ลองคิดเผื่อและจัดสรรปันส่วนเอาไว้ว่า เป็นไปในทางที่ดีหรือเป็นไปในทางที่แย่

ซึ่งสำหรับคนทำธุรกิจร้านกาแฟหรือคาเฟ่แบบไม่ได้คาดหวังผลตอบแทนแต่ทำด้วยแพทชั่นก็สามารถลงทุนได้อย่างเต็มที่ เพราะมีอีกหลายหลายคนที่ทำร้านกาแฟ ด้วยแพชชั่นขอให้สนุกกับการลงทุนครับ

Shopping Cart