ไอเทมเพื่อความปลอดภัยในการจัดส่ง Food Delivery สำหรับร้านกาแฟ
ในยุคสังคมปัจจุบันเราคงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าบริการ Food Delivery เข้ามามีบทบาทอย่างมากในชีวิตประจำวัน เพราะเป็นช่องทางในการอำนวยความสะดวกที่ดีอย่างมาก
ไม่ว่าจะเป็นความสะดวกสบายของลูกค้าที่ต้องสินค้าแต่ไม่สะดวกเดิน หรือร้านค้าที่ไม่มีการให้บริการหน้าร้านก็ยังทำการขายสินค้าได้ แม้กระทั่งเป็นการเพิ่มยอดขายให้กับร้านที่การให้บริการอยู่ตามสถานที่ต่างๆ
ความท้าทายและปัญหาการให้บริการผ่าน Food Delivery ของร้านที่ให้บริการเครื่องดื่มคงหนีไม่พ้นปัญหาเรื่องแพ็คเกจจึ้งในการให้บริการ ต้องทำไงเครื่องดื่มถึงจะไม่หก?ต้องทำอย่างไรลูกค้าถึงจะได้รสชาติเครื่องดื่มที่ใกล้เคียงกับการทานที่ร้านที่สุด? จะทำอย่างไรสินค้าจะคงคุณภาพและถึงมือลูกค้าในแบบสมบูรณ์ก็เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย
เลย เพราะนอกจากเรื่องระยะทางแล้วจากร้านค้าไปถึงจุดหมายปลายทางของลูกค้า ยังมีเรื่องเส้นทางที่คดโค้ง ทางที่เป็นเรียบ มีหลุม พื้นไม่เรียบ เป็นสิ่งที่สร้างปัญหาอย่างมาก วันนี้ทาง SCN เรามีไอเทมเด็ดๆดีๆมาให้ลูกค้าทุกท่านได้ลองนำไปใช้กับร้านของคุณเองดู เพราะถ้าลูกค้าได้รับสินค้าที่ยังมีการคงสภาพเครื่องดื่มและรสชาติที่ดีอยู่นั้นจะเป็นการสร้างความประทับใจเพื่อให้กลับมาใช้บริการอีกครั้งอย่างแน่นอน
8 ไอเทมช่วยคงสภาพเครื่องดื่ม สำหรับร้านเที่ต้องการจัดส่ง Food Delivery
1. แก้วใส่เครื่องดื่มในการจัดส่ง
เราต้องเลือกใช้วัสดุหรือบรรจุภัณฑ์ที่เข้ากับเครื่องดื่ม แยกตามประเภทเครื่องดื่มร้อน เครื่องดื่มเย็น ตัวแก้วควรมีความแข็งแรง ไม่แตกง่าย เพราะในขนาดทำการจัดส่งจะได้ช่วยให้เครื่องดื่มไม่หก เวลาถึงมือลูกค้าแล้วจะได้รับความรู้สึกใส่ใจและคุณภาพของบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มของคุณจะเป็นตัวช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้าได้อีกด้วย
2. แยกน้ำกับน้ำแข็ง
การจัดส่ง Food Delivery จะมีเรื่องระยะทางและเวลาเข้ามามีผลต่อรสชาติเครื่องดื่มเป็นอย่างมาก ดังนั้นการที่เราแยกน้ำแข็งกับตัวเครื่องดื่มออกจากกันก็จะช่วงคงรสชาติเครื่องดื่มไว้ได้จากการละลายของน้ำแข็ง สามารถแยกน้ำใส่ขวดหรือถุงบรรจุน้ำ และนำน้ำแข็งใส่แก้วน้ำหรือใส่ถุงเก็บความเย็นก็ทำได้เช่นกัน
3. ติดสติ๊กเกอร์กันหก
การติดสติ๊กเกอร์นั้นเป็นวิธีการป้องกันการหกแบบง่ายๆและทำกันได้ทุกร้าน เพียงเรานำสติ๊กเกอร์ที่มีขนาดใหญ่กว่ารูมาปิดฝาแก้ว และทำการปิดฝาแก้วให้แน่นก็สามารถทำให้เครื่องดื่มยังอยู่ในปริมาณที่ควรจะเป็นได้ ยิ่งถ้าเราสามารถทำสติ๊กเกอร์หกเป็นโลโก้ร้านหรือข้อความต่างๆได้ก็เพิ่มความน่าสนใจได้อีก
4. แก้วสกรีนโลโก้ร้าน
การจัดส่งแบบเดลิเวอรี่นั้นบ้างครั้งลูกค้าไม่เคยเห็นหรือไม่เคยรู้จักร้านเราเลยก็เป็นได้ ดังนั้นแก้วที่เราทำการจัดส่งเครื่องดื่มให้ลูกค้าควรมีการสกรีนโลโก้เพื่อเป็นแสดงตัวตน ภาพลักษณ์ เพื่อสร้างความน่าจดจำต่อลูกค้า เพื่อง่ายต่อการมาสั่งซ้ำในรอบถัดไป และเป็นการโฆษณาร้านค้าของเราให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยอาจทำการใส่ช่องทางติดต่อหรือใส่ช่องทางการติดตามร้านเพื่อให้ลูกค้ามารู้จักร้านเราได้มากขึ้น
5. กระดาษปิดปากเเก้วกันหก
กระดาษปิดปากแก้ว กันน้ำหก เป็นกระดาษ Food Grade กันซึม ป้องกันน้ำ ป้องกันของเหลว หกได้ เหมาะสำหรับร้านที่มีการจัดเดลิเวอรี่ เนื่องจากจะเป็นการป้องกันความเสียหายจากน้ำหกแล้ว ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในความสะอาดให้กับลูกค้าที่ได้รับเครื่องดื่มอีกด้วย
6. ถาดกระดาษใส่แก้ว Deliveryพร้อมถุงกระดาษ
สำหรับร้านค้าที่พอมีต้นทุนมากหน่อย แนะนำให้ใช้ถาดกระดาษใส่แก้วแล้วใส่ถุงกระดาษ เป็นการช่วยลดโลกร้อนแล้ว ยังช่วยให้เครื่องดื่มมีความมั่นคงไม่ล้มหกง่าย ตัวถาดกระดาษใส่แก้วมีหลากหลายแบบหลายขนาด ในส่วนของถุงกระดาษนั้นเรายังสามารถใส่โลโก้ร้านและข้อมูลการติดต่อได้อีกด้วย สามารถเลือกใช่ได้ตามต้องการเลย นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้าให้ดูมีราคาเพิ่มขึ้นอีกด้วย
7. ที่หิ้วแก้ว
สำหรับร้านที่มีต้นทุนน้อยหน่อย แนะนำเป็นที่หิ้วแก้วเพื่อให้ทางไรเดอร์สามารถนำไปแขวงในถุงเดลิเวอรี่ได้ สำหรับที่หิ้วแก้วนั้นมีให้เลือกใช้ได้หลากหลายแบบ มีทั้งแบบถุงพลาสติกที่มีราคาถูก หรือแบบกระดาษที่มีความสวยดูดี ร่วมถึงแบบสานจากไม้ไผ่การมีให้เลือกใช้ได้ตามต้องการ
8. ฟิล์มใสพันรอบแก้ว
สำหรับวิธีนี้จะเป็นการนำฟิล์มใสที่ใช้สำหรับถนอมอาหารมาใช้เพื่อป้องกันการหกของเครื่องดื่ม โดยการทำการปิดฝาแก้วเครื่องดื่มให้เรียบร้อย แล้วใช้ตัวฟิล์มถนอมอาหารมาพันให้ทั่วทั้งตัวแก้วแล้วฝาเครื่องดื่ม พันประมาณ 2-3 รอบ ก็จะเป็นการช่วยให้เครื่องดื่มไม่หกไม่มีน้ำซึมออกมาได้
นอกจากการมีไอเทมดีๆสำหรับไว้ใช้ในการส่ง Delivery แล้วนั้น การคิดถึงความสะดวกสบายของผู้บริโภค และคุณภาพของสินค้าที่ลูกค้าต้องได้รับเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด คุณภาพของอุปกรณ์หรือไอเทมต่างๆที่จะนำมาใช้เป็นแพ็คเกจจิ้งส่งให้ลูกค้าก็ควรมีเป็นไปตามมาตาฐาน รวมถึงการใส่ใจรสชาติของเครื่องดื่มที่ต้องคำนึงถึงการจัดส่งที่มีระยะทางไกลอีกด้วย
ดังนั้นร้านค้าทุกร้านควรคำนึงถึงค่าต้นทุนที่จะขายกันให้ดีด้วยนะ เพื่อจะได้ไม่เป็นการลดปริมาณที่ส่งให้ลูกค้าในภายหลัง ซึ่งทุกข้อสามารถที่จะนำไปปรับใช้กับร้านของคุณได้เลย